Last updated: 26 ก.ย. 2565 | 1170 จำนวนผู้เข้าชม |
“กรมราง”
ลงพื้นที่เปิดรับฟังความเห็นประชาชน อัพเกรดโครงข่ายรถไฟ
R-map ผุดเส้นทางรถไฟสายใหม่ชัยภูมิ –
เลย-หนองบัวลำภู-อุดร เชื่อมประตูการค้าการท่องเที่ยว 3
ประเทศในอนาคต
นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์
อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.)
กล่าวภายหลังโครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงข่ายรถไฟให้ครอบคลุม
และเชื่อมโยงพื้นที่ทั่วประเทศและรองรับการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบได้อย่างไร้รอยต่อ
(R-map) พื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู ว่า
สำหรับจังหวัดหนองบัวลำภู
เป็นจังหวัดที่อยู่ใกล้เคียงกับแนวเส้นทางโครงการรถไฟทางคู่และโครงการรถไฟความเร็วสูง
ช่วงนครราชสีมา-
หนองคาย
โดยที่สามารถจะวางแผนพัฒนาโครงข่ายรถไฟต่อไปยังจุดผ่านแดนถาวร
สะพานมิตรภาพน้ำเหือง อำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย
ซึ่งเป็นด่านพรมแดนระหว่างไทย-สปป.ลาว
ที่สามารถเชื่อมต่อกับทางหลวงหมายเลข 4 ของสปป.ลาว
ในแขวงไชยบุรี โดยสามารถเดินทางต่อไปยังเมืองแก่นท้าว
และเมืองหลวงพระบาง ซึ่งเป็นประตูการค้าและการท่องเที่ยว
ทั้งใน สปป.ลาว ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังเวียดนามและจีนได้
โดยเส้นทางรถไฟสายใหม่ จัตุรัส - ชัยภูมิ - หนองบัวลำภู –
เลย มีระยะทาง 333 กิโลเมตร พาดผ่านพื้นที่ 4 จังหวัด
เริ่มต้นที่ สถานีจัตุรัส จ.ชัยภูมิ ผ่านจ.ขอนแก่น
จ.หนองบัวลำภู และสถานีเมืองเลย จ.เลย
เป็นสถานีปลายทาง
นอกจากนี้ในเวทีสัมนาได้มีข้อเสนอให้มีการเชื่อมเส้นทางรถไฟสายใหม่จากจังหวัดอุดรธานี-จังหวัดหนองบัวลำภู
เนื่องจากเป็นระยะทางที่สั้นประมาณ 100 กิโลเมตร
ส่งผลให้มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการพัฒนาขึ้น
นอกจากนี้จังหวัดหนองบัวลำภูมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวสูง
สามารถดำเนินการเป็นพื้นที่การท่องเที่ยวเชื่อมต่อจากจังหวัดอุดรธานี
และเป็นประโยชน์ต่อในภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมของจังหวัดได้
ส่งผลให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาจังหวัดต่อไป
นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์
รองปลัดกระทรวงคมนาคม (หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการขนส่ง)
กล่าวว่า กระทรวงคมนาคม
เร่งรัดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง
อย่างเป็นรูปธรรม
โดยจังหวัดหนองบัวลำภูเป็นจังหวัดที่มีศักภาพการท่องเที่ยวสูง
แต่มีการเชื่อมต่อกับพื้นที่เมืองหลักน้อย ส่งผลให้ มี GPP
ของจังหวัดต่ำเมื่อเทียบกับจังหวัดข้างเคียงอย่างจังหวัดอุดรธานีที่
GPP ในระดับสูง
ดังนั้นจึงมีแนวคิดให้พื้นที่จังหวัดข้างเคียงให้มีศักยภาพในด้าน
GPP เฉลี่ยใกล้เคียงกัน
จากการพัฒนาการเชื่อมต่อด้านการคมนาคมและการท่องเที่ยว
และเนื่องจากจังหวัดหนองบัวลำภูอยู่ในระยะการเข้าถึงท่าอากาศยานของจังหวัดข้างเคียง
2 จังหวัดคือจังหวัดอุดรธานี และจังหวัดเลย
จึงต้องพิจารณาถึงการเชื่อมโยงด้านอื่น
อย่างการพัฒนาถนนทางหลวงหมายเลข 210 ที่ได้ดำเนินการแล้ว
กำลังพิจารณาถึงการพัฒนาระบบรางที่เชื่อมต่อถึงจังหวัดหนองบัวลำภูเพิ่มเติม
รวมถึงจากแผนการพัฒนาพื้นที่พืชสวนโลกในอีก 7 ปีข้างหน้า
(พ.ศ. 2569-2570)
และศักยภาพของนิคมอุสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี
จังหวัดหนองบัวลำภูสามารถดำเนินการพัฒนาและเติบโตควบคู่กันไปได้
นางศิวพร ฉั่วสวัสดิ์
ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวว่า
จังหวัดหนองบัวลำภู เป็นจังหวัดขนาดเล็กมีประชากรประมาณ
509,000 คน เนื้อที่ประมาณ 3,800 ตารางกิโลเมตรหรือประมาณ
2.4 ล้านไร่ อาชีพหลักของชาวจังหวัดหนองบัวลำภู
เป็นอาชีพเกษตรกรรม
นอกจากนี้เป็นจังหวัดที่มีจุดเด่นด้านภูมิปัญญา วัฒนธรรม
สิ่งแวดล้อม และธรรมมะ
และจากภูมิประเทศที่เป็นทั้งโอกาศและข้อจำกัดที่โดนล้อมด้วยจังหวัดใหญ่
อย่างจังหวัดอุดรธานี จังหวัดเลย จังหวัดขอนแก่น
ส่งผลให้มีการเชื่อมโยงกับจังหวัดใหญ่ที่มีศักยภาพการท่องเที่ยวมากเป็นระดับประเทศ
ดังนั้นจังหวัดหนองบัวลำภู
ต้องดึงโอกาศดังกล่าวมีเป็นเป้าหมายในการพัฒนา
โดยเน้นให้เป็น “เมืองน่าอยู่ และเมืองน่าเที่ยว”
จากการเป็นเมืองสะอาด เมืองที่สะดวกต่อการเข้าถึง
และเป็นเมืองที่สงบปลอดภัย
นอกจากนี้ด้านการท่องเที่ยว
พยายามเชื่อมโยงด้านการท่องเที่ยวจากด้านธรรมมะ
ด้านธรรมชาติ ด้านวัฒนธรรม นอกจากนี้ในปี 2569-2570
จังหวัดอุดรธานีจะมีพืชสวนโลกทางจังหวัดหนองบัวลำภูจึงมีการพัฒนาต่อยอดต้นทุนจากด้านการเกษตรกรรมควบคู่กัน
นอกจากนี้เรื่องเส้นทางคมนาคมการพัฒนาการเชื่อมโยงเส้นทางการขนส่งจังหวัดหนองบัวลำภูมีแค่การขนส่งทางถนนจากทางหลวงหมายเลข
210 เป็นเส้นทางหลักถึงจังหวัดอุดรธานี
ส่งผลให้มีการเสนอแผนให้เชื่อมโยงเส้นทางรถไฟจากอุจังหวัดอุดรธานีถึงจังหวัดหนองบัวลำภู
เพื่อเป็นโอกาสการเชื่อมโยงการคมนาคมของจังหวัดหนองบัวลำภูต่อไป