Last updated: 22 ธ.ค. 2564 | 262 จำนวนผู้เข้าชม |
กรมการขนส่งทางราง
ขับเคลื่อนนโยบายปี 2565-2566
เร่งศึกษาความเป็นไปได้การพัฒนาโครงข่ายรถไฟให้ครอบคลุม
และเชื่อมโยงพื้นที่ทั่วประเทศ
เพื่อรองรับการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบได้อย่างไร้รอยต่อ
นายพิเชฐ
คุณาธรรมรักษ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง
เป็นประธานเปิดสัมมนาเปิดตัว “โครงการศึกษาความเป็นไปได้
ในการพัฒนาโครงข่ายรถไฟให้ครอบคลุม
และเชื่อมโยงพื้นที่ทั่วประเทศและรองรับการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบได้อย่างไร้รอยต่อ
หรือ R-MAP ” โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน
สมาคมผู้ประกอบการ
และภาคประชาชนเข้าร่วม
นายพิเชฐ
กล่าวว่า รัฐบาลมีเป้าหมายยกระดับศักยภาพของประเทศหลายมิติ
ซึ่งในแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ
ประเด็นโครงสร้างพื้นฐาน ระบบโลจิสติกส์ และดิจิทัล (พ.ศ.
2561-2580)
ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนับสนุนความสามารถในการแข่งขันของประเทศในด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์
ให้สามารถสนับสนุนการขนส่งสินค้าต่อเนื่องหลายรูปแบบอย่างไร้รอยต่อ
และสอดรับกับการพัฒนาพื้นที่ตามแนวระเบียงเศรษฐกิจเกษตรกรรมท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กระทรวงคมนาคม
จึงเร่งรัดผลักดันการพัฒนาระบบขนส่งทางราง
ด้วยการพัฒนาโครงข่ายรถไฟทางคู่ ,ก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง
,จัดหาหัวรถจักร ล้อเลื่อน และการพัฒนาระบบอาณัติสัญญาณ
เพื่อให้การขนส่งทางราง กลายเป็นระบบขนส่งหลักของประเทศ
เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน
และลดต้นทุนทั้งการขนส่งสินค้าและการโดยสาร
กรมการขนส่งทางราง
ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลระบบขนส่งทางรางทั่วประเทศ
จึงขานรับนโยบายนี้ เร่งศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนา
R-MAP เชื่อมต่อโครงข่ายเดิมกับแหล่งเกษตรกรรม
แหล่งท่องเที่ยว นิคมอุตสาหกรรม และประเทศเพื่อนบ้าน
ในระดับจังหวัดและระดับภูมิภาค
การพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกและโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์รูปแบบต่าง
ๆ เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของระบบเศรษฐกิจ การกระจายโอกาส
การพัฒนาความเจริญสู่ระดับจังหวัด และภูมิภาค
เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและการเดินของประชาชน
นายพิเชฐ
กล่าวด้วยว่า R-Map
เป็นหนึ่งในโครงการขับเคลื่อนเชิงนโยบาย ในปี 2565-2566
เปิดโอกาสในการรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน
เพื่อนำมาประกอบการการศึกษาโครงการ โดยมีขอบเขตการศึกษา 4
ส่วน คือ 1.การทบทวน สำรวจ
รวบรวมข้อมูลผลการศึกษาและการดำเนินงานของแผนงานโครงการต่างๆ
ที่เกี่ยวข้อง
2.การศึกษาวิเคราะห์แนวทางการพัฒนาโครงข่ายรถไฟให้ครอบคลุมและเชื่อมโยงพื้นที่ทั่วประเทศ
,3.การจัดทำแผนพัฒนาโครงข่ายรถไฟ
ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ และ
4.การมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อให้ผลศึกษาครบถ้วน สมบูรณ์
เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ