ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานีรถไฟเพชรบุรี โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงนครปฐม-หัวหิน สัญญา 2 ช่วงหนองปลาไหล-หัวหิน

ดร.พิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง ได้รับมอบหมายจากนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานีรถไฟเพชรบุรี โดยมีนายอุดม เหมาเพชร รองวิศวกรใหญ่ด้านบำรุง รักษาการวิศวะกรใหญ่ฝ่ายการช่างโยธา การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นายปัฐตพงษ์ บุญแก้ว วิศวกรโครงการ ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง พร้อมเจ้าหน้าที่ รฟท. และผู้รับจ้างก่อสร้างรถไฟทางคู่สัญญา 2 ช่วงหนองปลาไหล- หัวหิน ให้การต้อนรับ

จากการลงพื้นที่พบว่า สถานีเพชรบุรี เป็นสถานีขนาดใหญ่ประจำจังหวัดเพชรบุรี ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงนครปฐม-หัวหิน สัญญา 2 ช่วงหนองปลาไหล-หัวหิน มีความคืบหน้างานก่อสร้างร้อยละ 98.372 โดยสถานีเพชรบุรี (กม.150+500) ดำเนินการก่อสร้างคืบหน้าร้อยละ 90.20 โดยสถานีเพชรบุรีใหม่ อยู่ด้านใต้ติดกับอาคารสถานีเพชรบุรีหลังเก่า ปัจจุบันเปิดใช้งานขายตั๋วรถไฟแล้ว เป็นสถานีขนาดใหญ่รองรับผู้โดยสารได้มากกว่า 5,000 คนต่อวัน มีพื้นที่ใช้สอยภายในอาคารประมาณ 1,759.22 ตารางเมตร ประกอบด้วย ห้องจำหน่ายตั๋ว ห้องควบคุมระบบต่างๆ ห้องสุขาสำหรับพนักงาน ห้องนายสถานี ห้องประชุม และห้องรับรอง มีห้องสุขาสาธารณะขนาดใหญ่ มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 90 ตารางเมตร แบ่งเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย ห้องสุขาชาย ห้องสุขาหญิง และห้องสุขาเสมอภาค

มีชานชาลาสำหรับผู้โดยสารมีหลังคาคลุมจำนวน 3 ชานชาลา ประกอบด้วย ชานชาลาที่ 1(font) พื้นที่ใช้สอยรวม 2,377.14 ตารางเมตร ชานชาลาที่ 2 (middle) พื้นที่ใช้สอยรวม1,875.34 ตารางเมตร และชานชาลาที่ 3 (siding) พื้นที่ใช้สอยรวม 1,347.50 ตารางเมตร โดยมีสะพานลอยระหว่างชานชาลา มีบันไดขึ้น-ลง3 ทางพร้อมทั้งลิฟต์ 3 ตัว อำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการทุกคน นอกจากนี้ มีบ้านพักพนักงานรถไฟ เป็นอาคารสองชั้น จำนวน 2 อาคาร รวม 6 คูหา มีพื้นที่ถนนของโครงการ 630 ตารางเมตร ประกอบด้วย พื้นที่สำหรับจอดรถ 467 ตารางเมตร รองรับรถยนต์ได้ 21 คัน และพื้นที่สำหรับจอดรถผู้พิการ 1 คัน และงานปรับปรุงภูมิทัศน์รอบสถานี 2,085 ตารางเมตร

ดร.พิเชฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการลงพื้นที่ พบว่า บริเวณย่านสถานีรถไฟเพชรบุรี รฟท.ได้ก่อสร้างสะพานลอยคนเดินข้ามเพิ่มเติม เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มความปลอดภัยให้แก่นักศึกษาพยาบาลของวิทยาลัยพยาบาลพระจอมเกล้า จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งได้รับคำขอบคุณจากผู้บริหารและเจ้าหน้าที่วิทยาลัยพยาบาล และเนื่องจากปัจจุบัน รฟท.ได้ใช้งานสถานีใหม่ ดังนั้น จึงมีแนวคิดที่จะพัฒนาปรับปรุงอาคารสถานีเก่า ซึ่งมีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม สำหรับเป็นพิพิธภัณฑ์และอาคารจำหน่ายสินค้า OTOP และของที่ระลึก เพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชนในจังหวัด นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ฝั่งตรงข้ามสถานีรถไฟเพชรบุรี ซึ่งปัจจุบันเป็นจุดจอดรถโดยสารรถประจำทาง สามารถพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นลานจอดรถขนส่งสาธารณะได้เพื่อรองรับการเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างล้อและราง ตามนโยบายนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งสำนักงานขนส่งจังหวัดเพชรบุรีมีแผนที่จะพัฒนาเส้นทางรถโดยสารสาธารณะเชื่อมต่อระหว่างสถานีรถไฟเพชรบุรี กับสถานที่ท่องเที่ยว และแหล่งการเดินทางของประชาชนในพื้นที่ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเดินทางของประชาชนอย่างไร้รอยต่อ ส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ เพื่อประหยัดการใช้พลังงานเชื้อเพลิง ลดปัญหาการจราจรติดขัด และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนและก๊าซเรือนกระจกลง

ดร.พิเชฐ กล่าวปิดท้ายว่า โครงการรถไฟทางคู่ช่วงนครปฐม-ชุมพร ระยะทาง 421 กิโลเมตร ปัจจุบันเปิดเดินรถไฟทางคู่ช่วงบ้านคูบัว-สะพลี ระยะทาง 347.4 กิโลเมตร แล้ว ส่วนที่เหลือช่วงสถานีโพรงมะเดื่อ-สถานีบ้านคูบัว ระยะทาง 50 กม. และ ช่วงสถานีสะพลี-สถานีชุมพรและย่านสถานีชุมพร รวม 15.6 กิโลเมตร คาดว่าจะเปิดใช้ทางคู่ได้ในเดือนมิถุนายน 2567 คงเหลือช่วงสถานีนครปฐม-สถานีโพรงมะเดื่อ ระยะทาง 8 กิโลเมตร คาดว่าจะเปิดใช้งานทางคู่ได้ในเดือนสิงหาคม 2567 โดยใช้ระบบทางสะดวก (E-Token)ในการเดินรถ ในระหว่างที่ติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม (สัญญา 6) ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จและเปิดให้บริการเดินรถไฟทางคู่เต็มรูปแบบช่วงกลางปี 2568

หน่วยงานที่ประกาศ

กลุ่มประชาสัมพันธ์

เรื่องอื่นๆในหมวดหมู่ข่าวประชาสัมพันธ์

Skip to content