คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) สำหรับผู้สมัครงาน

คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (“ประกาศ“) นี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ท่านซึ่งเป็นผู้สมัครงาน (ซึ่งต่อไปในประกาศนี้ เรียกว่า “กิจกรรมการประมวลผล“) ได้ทราบและเข้าใจรูปแบบการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคลที่กรมการขนส่งทางราง (ซึ่งต่อไปในประกาศนี้ เรียกว่า “ขร.”) ดำเนินการ ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลในข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมจากท่านเพื่อการดำเนินการภายใต้กิจกรรมการประมวลผลนี้
ทั้งนี้ ขร. ดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนี้

1 วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

      ขร. เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานที่ประสงค์เข้ารับการคัดเลือกเพื่อปฏิบัติงานภายใน ขร. โดยใช้ฐานทางกฎหมายกรณีความจำเป็นในการปฏิบัติตามสัญญา หรือมีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อเข้าทำสัญญา หรือกรณีการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือกรณีความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฏหมาย ทั้งนี้ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
1) เพื่อตรวจสอบและพิจารณาคุณสมบัติของผู้สมัครงาน รวมถึงการสรรหาหรือการพิจารณาคัดเลือกเพื่อบรรจุแต่งตั้ง หรือว่าจ้างเป็นพนักงาน ลูกจ้าง หรือผู้ปฏิบัติงานให้กับ ขร.
2) เพื่อดำเนินการสัมภาษณ์งาน วิเคราะห์ตรวจสอบประวัติการศึกษา และประสบการณ์ทำงานที่เกี่ยวข้อง
3) เพื่อพิจารณาตำแหน่งงานที่เปิดรับใหม่ในอนาคต สำหรับผู้สมัครงานที่ไม่ได้รับการบรรจุเป็นผู้ปฏิบัติงาน
4) เพื่อดำเนินการบรรจุขึ้นทะเบียนเป็นผู้ปฏิบัติงาน และเตรียมพร้อมในการปฏิบัติงาน

2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม

    โดยทั่วไป ขร. จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยการขอข้อมูลจากท่านโดยตรง แต่อาจมีบางกรณีที่ ขร. จำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งอื่นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ข้างต้น
ข้อมูลส่วนบุคคลที่ ขร. เก็บรวบรวม ประกอบด้วย
2.1 ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
1) ข้อมูลที่ใช้เพื่อระบุตัวตนและเพื่อการติดต่อ เช่น ชื่อ นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน เพศ
วันเดือนปีเกิด อายุ การศึกษา สถานภาพสมรส สัญชาติ ลายมือชื่อ ภาพถ่าย ที่อยู่ อีเมล หมายเลขโทรศัพท์
2) ข้อมูลที่เกี่ยวกับการสมัครงาน เช่น ประวัติส่วนตัว ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน เอกสารใบรับรองและข้อมูลอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการสรรหาและคัดเลือก ผลการประเมิน
3) ข้อมูลบุคคลภายนอกที่ท่านให้ไว้ เช่น ข้อมูลระบุตัวตนของบุคคลในครอบครัว หรือบุคคลที่ท่านอ้างอิงเพื่อการตรวจสอบและรับรองการทำงาน
2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว)
ขร. จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่านเท่าที่จำเป็น โดยได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านหรือตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่ง ขร. จะจัดให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานและประโยชน์ของท่าน ทั้งนี้ ขร. อาจมีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูล
ส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ดังต่อไปนี้
1) ข้อมูลสุขภาพ
2) ข้อมูลประวัติอาชญากรรม ซึ่งจะเก็บจากเอกสารที่ท่านนำมาแสดง หรือท่านยินยอมให้ตรวจสอบจากหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อพิจารณาความเหมาะสมในการปฏิบัติงานในตำแหน่งที่ ขร. กำหนด

3 ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

      ขร. จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่มีความจำเป็น เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ระบุในประกาศฉบับนี้และสอดคล้องตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ สำหรับผู้สมัครงานที่ไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ปฏิบัติงาน ขร. จะเก็บข้อมูลของท่านไว้ไม่เกิน 2 ปี นับตั้งแต่วันที่ ขร. ได้รับข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อนำมาใช้ติดต่อกับท่านเมื่อมีตำแหน่งงานที่อาจจะเหมาะสมกับท่านในอนาคต
      เมื่อพ้นระยะเวลาที่กำหนดแล้ว ขร. จะดำเนินการลบหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ หรือดำเนินการอื่นใดตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด เพื่อให้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่มีข้อพิพาทหรือคดีความเกี่ยวกับการสมัครงานหรือสัญญาจ้างงานของท่าน ขร. ขอสงวนสิทธิในการเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปจนกว่าข้อพิพาทนั้นจะได้มีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว

4 ประเภทของบุคคลหรือหน่วยงานซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมอาจจะถูกเปิดเผย

ขร. อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นให้แก่หน่วยงานหรือบุคคลภายนอก เช่น
1) ผู้ให้บริการหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ ขร. ว่าจ้างหรือมอบหมายให้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในนาม ขร. เช่น ผู้พัฒนาระบบฐานข้อมูล การทดสอบคุณสมบัติและความสามารถ
2) หน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจตามกฎหมาย เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ศาล

5 สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

    ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ดังนี้
1) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม ในกรณีที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้กับ ขร. หรือ ขร. ใช้ความยินยอมเป็นฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
2) สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล โดยท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและขอให้ ขร. จัดทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้ ขร. เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้    
3) สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล ในบางกรณี ท่านอาจมีสิทธิขอให้ ขร. ส่งหรือโอนข้อมูล
ส่วนบุคคลที่อยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติหรือขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่ ขร. ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่โดยสภาพ
ทางเทคนิคไม่สามารถทำได้
4) สิทธิในการคัดค้าน ในบางกรณี ท่านอาจมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนได้
5) สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล โดยท่านมีสิทธิในการขอให้ ขร. แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้
6)   สิทธิในการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล ในบางกรณี ท่านอาจมีสิทธิในการขอให้ ขร. ดำเนินการลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้
7) สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ในบางกรณี ท่านอาจมีสิทธิในการขอให้ ขร. ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้
ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิข้างต้นตามเงื่อนไขและข้อยกเว้นตามที่กฎหมายกำหนดโดยเฉพาะในกรณีที่การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดำเนินการเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือ
การปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของ ขร. สิทธิของท่านในบางกรณีอาจมีข้อจำกัดตามกฎหมาย
ท่านสามารถยื่นคำร้องขอใช้สิทธิต่อ ขร. โดย ขร. จะพิจารณาดำเนินการตามคำร้องหรือปฏิเสธคำร้องของท่านและแจ้งผลกลับไปภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันที่ ขร. ได้รับเอกสารคำร้องขอใช้สิทธิครบถ้วนตามเงื่อนไข
ที่ ขร. กำหนด
ในกรณีที่ ขร. มีความจำเป็นอันมิอาจก้าวล่วงได้ทำให้ ขร. ต้องใช้ระยะเวลาพิจารณาคำร้องขอใช้สิทธิ
ของท่านเกิน 30 วัน ขร. จะแจ้งสาเหตุของความล่าช้าดังกล่าวให้ท่านทราบโดยไม่ชักช้า ในกรณีที่ ขร. จะปฏิเสธคำร้องขอใช้สิทธิของท่าน ขร. จะแจ้งผลการปฏิเสธพร้อมเหตุผล และหากท่านมีข้อสงสัยในการปฏิเสธ
ท่านสามารถสอบถามมายัง ขร. ได้
หากท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเห็นว่า ขร. ปฏิบัติต่อสิทธิของท่านไม่ถูกต้องตามเงื่อนไขของกฎหมาย ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติหรือประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ท่านมีสิทธิร้องเรียน ขร. ต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญได้

6 วิธีการติดต่อผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

หน่วยงาน: กรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม
สถานที่ติดต่อ: อาคาร ณ ถลาง ชั้น 4, 514/1 ถนนหลานหลวง แขวงสี่แยกมหานาค เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300
ช่องทางการติดต่อ: อีเมล [email protected]

7 การปรับปรุงประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice)

      ประกาศฉบับนี้อยู่ภายใต้การตรวจสอบและทบทวนอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้น จึงอาจมีการปรับปรุงแก้ไขได้ เพื่อให้สอดคล้องกับเงื่อนไขการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและโปร่งใสต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้เมื่อมีการปรับปรุงประกาศ ขร. จะแจ้งให้ท่านทราบผ่านทางเว็บไซต์ของ ขร. โดยเร็วที่สุด

Skip to content