กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ตระหนักและให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการของ ขร. และถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ในเรื่องการเคารพสิทธิความเป็นส่วนตัว ของผู้ใช้บริการเป็นสำคัญ
คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (“ประกาศ“) ฉบับนี้จึงถูกจัดทำขึ้นเพื่อให้ท่านในฐานะผู้ใช้บริการของ ขร. ได้ทราบรายละเอียดของวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย (รวมเรียกว่า “ประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งสิทธิต่าง ๆ ของท่านภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
ทั้งนี้ การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ในประกาศนี้ ขร. ดำเนินการในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller) ซึ่งหมายความว่า ขร. เป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
คำนิยาม
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
“สำนักงาน” หมายความถึง กรมการขนส่งทางราง
“ขร.” หมายความถึง กรมการขนส่งทางราง
“ผู้ปฏิบัติงาน” หมายความถึง เจ้าหน้าที่และผู้ปฏิบัติงานของกรมการขนส่งทางราง
“ผู้ใช้บริการของ ขร.” ได้แก่ ผู้ใช้งานเว็บไซต์ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่น ๆ
“ผู้ใช้งานเว็บไซต์” หมายความถึง ผู้ที่เข้าใช้งานเว็บไซต์ของ ขร. www.drt.go.th
“ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่น ๆ” หมายความถึง ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินการของ ขร. ขร. ดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนี้
1 ฐานกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
1.1 ขร. เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้ฐานกฎหมายดังต่อไปนี้
1.1.1 ความจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจสาธารณะหรือการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่ ขร. ทั้งนี้ เป็นไปตามกฎกระทรวง แบ่งส่วนราชการกรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม พ.ศ. 2562 ให้กรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม มีภารกิจเกี่ยวกับการเสนอแนะนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนการพัฒนาด้านการขนส่งทางราง การกำกับดูแลมาตรฐานและระเบียบทางด้านความปลอดภัยการบำรุงทาง และการประกอบกิจการ วางแผนโครงข่าย พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรางของประเทศให้มีโครงข่ายที่สมบูรณ์ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ เชื่อมต่อกับการขนส่งระบบอื่น และประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งมีการศึกษาและพัฒนาให้เกิดนวัตกรรมขึ้นในระดับประเทศและระดับภูมิภาค เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยในการเดินทาง
1.1.2 ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของ ขร. หรือของบุคคลอื่น โดยประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ เพื่อการรับสมัครและคัดเลือกผู้เข้าอบรม การติดต่อประสานงานและแจ้งข้อมูลข่าวสารให้แก่ผู้เข้าอบรม รวมถึงการบริหารจัดการการฝึกอบรมหรือกิจกรรมภายในของ ขร.
1.1.3 ความจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนการเข้าทำสัญญา
1.1.4 ได้รับความยินยอมที่สมบูรณ์จากท่าน ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมของท่าน
2 วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ขร. ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
2.1 เพื่อประกอบการรับข้อมูลส่วนบุคคลตามช่องทางที่จัดไว้
2.2 เพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้บริการของ ขร. หรือเครือข่ายของ ขร.
3 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ ขร. เก็บรวบรวม
เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ได้แจ้งในข้อ ๒. ขร. เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังรายการต่อไปนี้
แหล่งข้อมูลและรายการข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม มีดังนี้
แหล่ง/วิธีการเก็บรวบรวม | รายการข้อมูลส่วนบุคคล |
1. ข้อมูลที่เก็บโดยตรงผ่านการกรอกข้อมูลในเว็บไซต์ www.drt.go.th หรือการกรอกข้อมูลในรูปแบบกระดาษหรือการที่ท่านส่งข้อมูล ส่วนบุคคลของท่านให้แก่ ขร. โดยตรง | ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น วัน/เดือน/ปีเกิด อายุ เพศ รูปถ่าย สัญชาติ ตำแหน่ง สังกัด ที่อยู่ที่ติดต่อได้ เบอร์โทรศัพท์มือถือ อีเมล์ ไอดีไลน์ เลขบัตรประจำตัวประชาชน อายุราชการคงเหลือ ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน ประวัติการฝึกอบรม ประวัติการสอนและความเชี่ยวชาญ เลขที่บัญชีธนาคารของบุคคลหรือหน่วยงาน ข้อมูลผู้ประสานงาน เป็นต้น |
2. ข้อมูลที่เก็บโดยการใช้เทคโนโลยีตรวจจับหรือติดตามพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ www.drt.go.th ของท่าน | เว็บไซต์คุกกี้ ข้อมูลการจราจรทางคอมพิวเตอร์ ข้อมูลการใช้ Application, Device ID, Browsing History |
4 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ขร. อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อประเภทของบุคคลและช่องทางดังต่อไปนี้
4.1 หน่วยงานต้นสังกัดของท่าน เช่น กรณีหน่วยงานร้องขอเป็นหนังสือมายัง ขร. ขอให้จัดส่งรายงานข้อมูลผู้เข้าอบรมซึ่งเป็นบุคลากรในสังกัดของหน่วยงาน เป็นต้น
4.2 เจ้าหน้าที่ของรัฐ หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ หรือบุคคลอื่นเพื่อการดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด คำสั่งของผู้มีอำนาจ คำสั่งหรือหมายศาล เป็นต้น
4.3 หน่วยงานเครือข่าย คู่สัญญา ผู้ให้บริการหรือบุคคลผู้เกี่ยวข้องหรือมีความจำเป็นในการให้บริการของ ขร. ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับข้อมูลของท่าน เช่น ผู้ให้บริการระบบฐานข้อมูล ผู้จัดส่งเอกสารหรือผู้พัฒนาเว็บไซต์ เป็นต้น
4.4 ประกาศต่อสาธารณะ ในกรณีเช่น การประกาศรายชื่อผู้สมัครงาน รายชื่อผู้เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ผ่านช่องทางเว็บไซต์ของ ขร. www.drt.go.th และประกาศผ่านสื่อ Social Media เช่น Facebook ของ ขร. เป็นต้น ทั้งนี้ กรณีที่การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากท่านก่อน ขร. จะดำเนินการขอความยินยอมตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
5 สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ของท่าน
พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2567 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในความควบคุมของท่านได้มากขึ้น โดยท่านสามารถใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2567 เมื่อบทบัญญัติในส่วนที่เกี่ยวกับสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
5.1 สิทธิในการเข้าถึง รับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ ขร. เก็บรวบรวมโดยไม่ได้รับความยินยอมจากท่าน เว้นแต่กรณีที่ ขร. มีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาลและกรณีที่การขอเข้าถึงและรับสำเนาของท่านจะส่งผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
5.2 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน เพื่อให้มีความถูกต้อง
เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
5.3 สิทธิในการขอให้องค์กรระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีหนึ่งกรณีใดดังต่อไปนี้
5.3.1 เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่ ขร. ทำการตรวจสอบตามคำร้องขอของท่านให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน
5.3.2 ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
5.3.3 เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่ ขร.
ได้แจ้งแก่ท่านในการเก็บรวบรวม แต่ท่านประสงค์ให้ ขร. เก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปเพื่อประกอบการใช้สิทธิตามกฎหมายของท่าน
5.3.4 เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่ ขร. กำลังพิสูจน์ให้ท่านเห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือตรวจสอบความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูล
ส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์สาธารณะ อันเนื่องมาจากการที่ท่านได้ใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม
ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
5.4 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่กรณีที่ ขร.
มีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่น ขร. สามารถแสดงให้เห็นว่า การเก็บรวบรวม
ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะตามภารกิจของ ขร. )
6 ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
ขร. เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาดังต่อไปนี้
สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลในกิจกรรมต่างๆ เก็บรักษาไว้ 1 ปี หรือจนกว่าไม่มีการใช้งาน นับแต่วันที่ ขร. ได้รับข้อมูลส่วนบุคคล เมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้ว ขร. จะทำการลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
เมื่อหมดความจำเป็นในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งแก่ท่าน อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ ขร.
มีความจำเป็นในการเก็บรักษาข้อมูลบางส่วนเพื่อประโยชน์ของท่าน ขร. ขอสงวนสิทธิในการเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปจนกว่าภารกิจดังกล่าวจะมีข้อกำหนดให้ยกเลิก หรือข้อพิพาทนั้นจะได้มีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว
7 คุกกี้ (Cookie)
ขร. เก็บรวบรวมและใช้คุกกี้รวมถึงเทคโนโลยีอื่นในลักษณะเดียวกันในเว็บไซต์ที่อยู่ภายใต้ความดูแลของ ขร. ได้แก่ www.drt.go.th หรือภายใต้โดเมน drt.go.th หรือบนอุปกรณ์ของท่าน ทั้งนี้ เพื่อการดำเนินการด้านความปลอดภัยในการให้บริการของ ขร. และเพื่อให้ท่านซึ่งเป็นผู้ใช้งานได้รับความสะดวกและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานบริการของ ขร. และข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปเพื่อปรับปรุงเว็บไซต์ของ ขร. ให้ตรงกับความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น โดยท่านสามารถตั้งค่าหรือลบการใช้งานคุกกี้ได้ด้วยตนเองจากการตั้งค่าในเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) ของท่าน
8 การรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล
ขร. และสำนักงานมีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสม ทั้งในเชิงเทคนิคและการบริหารจัดการ เพื่อป้องกันมิให้ข้อมูลสูญหาย หรือมีการเข้าถึง ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและแนวปฏิบัติด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (Information Security Policy) ของสำนักงาน
นอกจากนี้ สำนักงานได้กำหนดให้มีนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) ขึ้นโดยประกาศให้ทราบกันโดยทั่วทั้งองค์กร พร้อมแนวทางปฏิบัติเพื่อให้เกิดความมั่นคงปลอดภัยในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยธำรงไว้ซึ่งความเป็นความลับ (Confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (Integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (Availability) ของข้อมูลส่วนบุคคล โดยได้จัดให้มีการทบทวนนโยบายดังกล่าวรวมถึงประกาศนี้ในระยะเวลาตามที่เหมาะสม
9 การมีส่วนร่วมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและผู้แทน
ขร. อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อได้รับคำร้องขอจากท่าน ผู้สืบสิทธิ์ ทายาท ผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ตามกฎหมายของท่าน โดยส่งคำร้องขอผ่านอีเมล : [email protected] ในกรณีที่ท่าน ผู้สืบสิทธิ์ ทายาท ผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ตามกฎหมายมีการคัดค้านการจัดเก็บ ความถูกต้อง หรือการกระทำใด ๆ เช่น การแจ้งดำเนินการปรับปรุงแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล ขร. จะดำเนินการบันทึกหลักฐานคำคัดค้านดังกล่าวไว้เป็นหลักฐานด้วย
ทั้งนี้ ขร. อาจปฏิเสธสิทธิตามวรรคสองได้ในกรณีที่มีกฎหมายกำหนด หรือในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกทำให้ไม่ปรากฏชื่อหรือสิ่งบอกลักษณะอันสามารถระบุตัวท่านได้
10 การให้บริการโดยบุคคลที่สามหรือผู้ให้บริการช่วง
ในกรณีที่มีความจำเป็น ขร. อาจมีการมอบหมายหรือจัดซื้อจัดจ้างบุคคลที่สาม (ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล) ให้ทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของ ขร. ซึ่งบุคคลที่สามดังกล่าวอาจเสนอบริการในลักษณะต่าง ๆ เช่น การเป็นผู้ดูแล (Hosting) รับงานบริการช่วง (Outsourcing) หรือเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ (Cloud computing service/provider) หรือเป็นงานในลักษณะการจ้างทำของในรูปแบบอื่น
การมอบหมายให้บุคคลที่สามทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ขร. จะจัดให้มีข้อตกลงระบุสิทธิและหน้าที่ของ ขร. ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและของบุคคลที่ ขร. มอบหมายในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงกำหนดรายละเอียดประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่ ขร. มอบหมายให้ประมวลผล รวมถึงวัตถุประสงค์ ขอบเขตในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและข้อตกลงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามขอบเขตที่ระบุในข้อตกลงและตามคำสั่งของ ขร. เท่านั้นโดยไม่สามารถประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นได้
ในกรณีที่ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีการมอบหมายผู้ให้บริการช่วง (ผู้ประมวลผลช่วง) เพื่อทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้ ขร. จะกำกับให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจัดให้มีเอกสารข้อตกลงระหว่างผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้ประมวลผลช่วง ในรูปแบบและมาตรฐานที่ไม่ต่ำกว่าข้อตกลงระหว่าง ขร. กับผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
11 การเชื่อมต่อเว็บไซต์หรือบริการภายนอก
เว็บไซต์ของ ขร. อาจมีการเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สาม ซึ่งเว็บไซต์หรือบริการดังกล่าวอาจมีการประกาศนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวที่มีเนื้อหาสาระแตกต่างจากประกาศนี้ ขร. ขอแนะนำให้ท่านศึกษานโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของเว็บไซต์หรือบริการนั้น ๆ เพื่อทราบในรายละเอียดก่อนการเข้าใช้งาน ทั้งนี้ ขร. ไม่มีความเกี่ยวข้องและไม่มีอำนาจควบคุมถึงมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์หรือบริการดังกล่าวและไม่สามารถรับผิดชอบต่อเนื้อหา นโยบาย ความเสียหาย หรือการกระทำอันเกิดจากเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สาม
12 การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
ขร. ได้กำหนดให้ผู้ปฏิบัติงาน เจ้าหน้าที่และบุคคลเฉพาะผู้ที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องในการจัดเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกิจกรรมการประมวลผลนี้เท่านั้นที่จะสามารถเข้าถึงข้อมูล
ส่วนบุคคลของท่านได้ โดย ขร. จะดำเนินการให้เจ้าหน้าที่และบุคคลดังกล่าวปฏิบัติตามประกาศนี้
อย่างเคร่งครัด
13 การเปลี่ยนแปลงแก้ไขประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว
ขร. อาจพิจารณาปรับปรุง แก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงประกาศนี้ตามที่เห็นสมควร และจะทำการแจ้งให้ท่านทราบผ่านช่องทางเว็บไซต์ www.drt.go.th โดยมีวันที่ของเวอร์ชั่นล่าสุดกำกับไว้ อย่างไรก็ดี ขร. ขอแนะนำให้ท่านโปรดตรวจสอบเพื่อรับทราบประกาศฉบับใหม่อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะก่อนที่ท่านจะทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
การเข้าใช้งานหรือบริการภายใต้กิจกรรมการประมวลผลของท่าน ถือเป็นการรับทราบตามข้อตกลงในประกาศนี้ ทั้งนี้ โปรดหยุดการใช้งานหากท่านไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงในประกาศฉบับนี้ หากท่านยังคงใช้งานต่อไปภายหลังจากที่ประกาศนี้มีการแก้ไขและนำขึ้นประกาศในช่องทางข้างต้นแล้ว ถือว่าท่านได้รับทราบการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแล้ว
14 การติดต่อสอบถาม
ท่านสามารถติดต่อสอบถามเกี่ยวกับประกาศฉบับนี้ได้ที่
14.1 ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller)
สถานที่ติดต่อ: อาคาร ณ ถลาง ชั้น 4-5, 514/1 ถนนหลานหลวง แขวงสี่แยกมหานาค เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300
ช่องทางการติดต่อ: [email protected]
โทรศัพท์: 02-164-2626
14.2 เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO)
สถานที่ติดต่อ: อาคาร ณ ถลาง ชั้น 4-5, 514/1 ถนนหลานหลวง แขวงสี่แยกมหานาค เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300
ช่องทางการติดต่อ: [email protected]
โทรศัพท์: 02-164-2626