วันนี้ (12 เมษายน 2567) ดร. พิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยว่า นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมได้มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน จึงได้มอบนโยบายให้กระทรวงคมนาคมดำเนินมาตรการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยของประชาชน เพื่อให้ประชาชนเดินทางถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัย ลดการสูญเสียจากอุบัติเหตุ โดยให้บริการระบบขนส่งสาธารณะที่เข้าถึงง่าย เพียงพอ ไม่ล่าช้า ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง ไม่โก่งราคา ไม่ทิ้งผู้โดยสาร และแก้ไขปัญหาทันกับเหตุการณ์ รวมถึงบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเชื่อมโยงระบบการขนส่งสาธารณะ เพื่อตอบโจทย์นโยบาย “สะดวก สบาย ปลอดภัย ไร้รอยต่อ” กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ได้นำนโยบายดังกล่าวมาขับเคลื่อนให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดย ขร. ประสานผู้ให้บริการระบบราง ดำเนินการตามนโยบายดังกล่าว ซึ่ง การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) ได้เพิ่มจำนวนเที่ยวรถขนส่งทางราง และขยายตารางเวลาเดินรถไฟฟ้า ให้สอดรับกับปริมาณความต้องการใช้บริการของพี่น้องประชาชน ส่วนมาตรการด้านความปลอดภัย ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเพิ่มความเข้มงวดในการดูแลความปลอดภัยแก่ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการ โดยกำชับให้ตรวจสอบความพร้อมขบวนรถให้มีความสมบูรณ์มากที่สุด จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังความปลอดภัยจากกล้องวงจรปิด CCTV ตามสถานีรถไฟ/รถไฟฟ้า และบนขบวนรถไฟฟ้าและรถไฟทั่วประเทศ พร้อมกับเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ สารเสพติดของพนักงานก่อนปฏิบัติหน้าที่ และห้ามจำหน่ายแอลกอฮอล์บนขบวนรถไฟและบริเวณสถานีรถไฟทุกกรณีอย่างเด็ดขาด พร้อมทั้ง รฟท. ได้จัดตั้งศูนย์ความปลอดภัยทั่วประเทศเพื่อรับแจ้งเหตุและประสานงานต่างๆ ตลอด 24 ชั่วโมง
ดร. พิเชฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อวาน (วันที่ 11 เมษายน 2567) ซึ่งเป็นวันแรกของวันหยุดต่อเนื่องช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2567 มีประชาชนใช้บริการระบบราง รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,453,858 คน-เที่ยว มากกว่าสงกรานต์ปี 2566 ที่ผ่านมา 275,251 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.35 แต่น้อยกว่าประมาณการ 88,936 คน-เที่ยว หรือต่ำกว่าประมาณการร้อยละ 5.76 (ประมาณการ 1,542,794 คน-เที่ยว) แบ่งเป็น รถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 84,303 คน-เที่ยว และรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและรถไฟชานเมือง (รวมสายสีแดง) จำนวน 1,369,555 คน-เที่ยว (รวมผู้โดยสารรถไฟทางไกลเชื่อมต่อสายสีแดงฟรี 31 คน) โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. รถไฟระหว่างเมืองของ รฟท. ให้บริการรวม 215 ขบวน (รวมขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสาร 3 ขบวน คือ ขบวน 6 เชียงใหม่-กรุงเทพอภิวัฒน์ ขบวน 967 กรุงเทพอภิวัฒน์- อุดรธานี และขบวน 977 กรุงเทพอภิวัฒน์-อุบลราชธานี มีผู้โดยสารรวม 1,910 คน) มีผู้ใช้บริการจำนวน 84,303 คน-เที่ยว มากกว่าวันเดียวกันของสงกรานต์ปี 2566 จำนวน 11,739 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.18 แต่ยังน้อยกว่าประมาณการ 5,607 คน-เที่ยว หรือต่ำกว่าประมาณการร้อยละ 6.24 (ประมาณการ 89,910 คน-เที่ยว) แบ่งเป็นผู้โดยสารเชิงพาณิชย์ 37,045 คน-เที่ยว (มากกว่าวันที่ 11 เมษายน 2566 จำนวน 6,450 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 21.08) และผู้โดยสารเชิงสังคม 47,258 คน-เที่ยว (มากกว่าวันที่ 11 เมษายน 2566 จำนวน 5,289 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.60) โดยมีผู้โดยสารขาออกจำนวน 46,216 คน-เที่ยว (มากกว่าวันที่ 11 เมษายน 2566 จำนวน 6,174 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ15.42) และผู้โดยสารขาเข้า 38,087 คน-เที่ยว (มากกว่าวันที่ 11 เมษายน 2566 จำนวน 2,565 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.22) โดยพบว่า สายใต้มีผู้ใช้บริการมากสุดถึง 28,192 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 13,982 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 14,210 คน-เที่ยว) รองลงมาคือสายตะวันออกเฉียงเหนือมีผู้ใช้บริการ 23,619 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 14,703 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 8,916 คน-เที่ยว) สายเหนือ 16,447 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 9,279 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 7,168 คน-เที่ยว) สายตะวันออก 10,597 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 5,464 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 5,133 คน-เที่ยว) และสายแม่กลองและมหาชัย 5,448 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 2,788 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 2,660 คน-เที่ยว)
2. ระบบรถไฟฟ้า ให้บริการเดินรถไฟฟ้ารวม 2,990 เที่ยว (รวมเสริม 42 เที่ยว) มีผู้ใช้บริการรวมจำนวน 1,369,555 คน-เที่ยว มากกว่าวันเดียวกันของสงกรานต์ปี 2566 จำนวน 263,512 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.82 แต่ยังน้อยกว่าประมาณการ 83,329 คน-เที่ยว หรือต่ำกว่าประมาณการร้อยละ 5.74 (ประมาณการ 1,452,884 คน-เที่ยว) ประกอบด้วย
2.1 รถไฟฟ้า Airport Rail Link ให้บริการ 222 เที่ยว (รวมเสริม 7 เที่ยว) มีผู้ใช้บริการจำนวน 65,616 คน-เที่ยว (เพิ่มขึ้นจาก 11 เมษายน 2566 จำนวน 8,323 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ14.53)
2.2 รถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) ให้บริการ 308 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 30,396 คน-เที่ยว (รวมผู้โดยสารรถไฟทางไกลต่อสายสีแดง 31 คน-เที่ยว (เพิ่มขึ้นจาก 11 เมษายน 2566 จำนวน 11,411 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 60.11)
2.3 รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สีม่วง) ให้บริการ 321 เที่ยว (รวมเสริม 3 เที่ยว) มีผู้ใช้บริการจำนวน 66,194 คน-เที่ยว (เพิ่มขึ้นจาก 11 เมษายน 2566 จำนวน 27,210 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 69.80)
2.4 รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) ให้บริการ 484 เที่ยว (รวมรถเสริม 32 เที่ยว) มีผู้ใช้บริการจำนวน 415,347 คน-เที่ยว (เพิ่มขึ้นจาก 11 เมษายน 2566 จำนวน 82,870 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 24.93)
2.5 รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (สายสุขุมวิทและสายสีลม) ให้บริการ 884 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 706,918 คน-เที่ยว (เพิ่มขึ้นจาก 11 เมษายน 2566 จำนวน 53,884 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.25)
2.6 รถไฟฟ้า สายสีทอง ให้บริการ 219 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 6,688 คน- เที่ยว (เพิ่มขึ้นจาก 11 เมษายน 2566 จำนวน 1,418 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 26.91)
2.7 รถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง ให้บริการ 276 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 29,565 คน-เที่ยว (เริ่มเปิดทดลองให้บริการตั้งแต่วันที่ 3 มิ.ย. 66)
2.8 รถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู ให้บริการ 276 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 48,831 คน-เที่ยว (เริ่มเปิดทดลองให้บริการตั้งแต่ วันที่ 21 พ.ย.66)
ดร. พิเชฐ กล่าวด้วยว่า สำหรับด้านความปลอดภัย ในวันที่ 11 เมษายน 2567 มีอุบัติเหตุผู้โดยสารพลัดตกจากขบวนรถไฟ จำนวน 1 ครั้ง ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 1 ราย เมื่อเวลา 05.55 น. ขบวนรถท้องถิ่นที่ 445 (ชุมพร-ชุมทางหาดใหญ่) ลงเทียบชานชาลาที่ 5 สถานีชุมพร มีผู้โดยสารหญิง อายุ 67 ปีพลัดตกจากขบวนรถขณะก้าวขึ้นขบวนรถบาดเจ็บเล็กน้อย 1 ราย เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยผู้บาดเจ็บประสงค์เดินทางไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลด้วยตนเอง และเมื่อเวลา 21.51 น. มีต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มขวางทางรถไฟระหว่างสถานีบ้านหมอ-สถานีหนองโดน กีดขวางการเดินรถไฟสายเหนือและสายตะวันออกเฉียงเหนือ เจ้าหน้าที่ดำเนินการตัดต้นไม้และนำพ้นออกจากเขตระบบ สามารถเปิดใช้ทางขึ้นได้เวลา 23.00 น. จากเหตุการณ์นี้ส่งผลให้ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 13 (กรุงเทพอภิวัฒน์-เชียงใหม่) ล่าช้าเพิ่ม 1 ชั่วโมง 19 นาที และขบวนรถเร็วที่ 107 (กรุงเทพอภิวัฒน์-เด่นชัย) ล่าช้าเพิ่ม 48 นาที ส่วนระบบรถไฟฟ้ามีเหตุรถไฟฟ้าขัดข้อง 2 ครั้ง เมื่อเวลา 15.10 น. รถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู จุดสับรางขัดข้องระหว่างสถานีตลาดมีนบุรีและสถานีมีนบุรี ดำเนินการแก้ไขแล้วเสร็จเวลา 15.53 น. สามารถเดินรถได้ตามปกติ และต่อมาเวลา17.11 น. รถไฟฟ้าสายสีทอง จุดสับรางขัดข้องระหว่างสถานีคลองสานและสถานีเจริญนคร ดำเนินการการแก้ไขแล้วเสร็จเวลา 18.48 น. สามารถเดินรถได้ตามปกติ ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางรางได้ประสาน รฟท. ให้กำชับเจ้าหน้าที่บนขบวนรถและนายสถานีประชาสัมพันธ์ผู้โดยสารงดนั่งและยืนบริเวณบันไดและบริ้วณรอยต่อของตู้รถไฟ (gangway) เพื่อป้องกันอุบัติเหตุผู้โดยสารพลัดตกจากขบวนรถ นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางรางประสานผู้ให้บริการระบบราง ดำเนินการตรวจวัดแอลกอฮอล์ผู้ปฏิบัติงานก่อนปฏิบัติหน้าที่เดินรถขนส่งทางราง จัดพนักงานรักษาความปลอดภัย จัดชุดสุนัข K-9 ช่วยตรวจกระเป๋าสัมภาระ รวมทั้งประสานฝ่ายความมั่นคงมาช่วยดูแลในพื้นที่ระบบรางมากขึ้น และประสานจังหวัดที่มีทางรถไฟผ่านจัดเจ้าหน้าที่/อาสาสมัคร/กู้ภัย/ อปพร. มาเฝ้าระวังเหตุบริเวณจุดตัดทางรถไฟกับถนนที่เป็นทางลักผ่าน เพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในช่วงวันหยุดต่อเนื่องช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2567 ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2567 นี้อีกด้วย
ดร. พิเชฐ กล่าวปิดท้ายว่า ได้ประสานผู้ให้บริการระบบราง รถไฟฟ้าพิจารณาจัดรถเสริมในช่วงเวลาที่มีผู้ใช้บริการหนาแน่น และ รฟท. เพิ่มตู้ไปกับขบวนรถปกติ พร้อมทั้งจัดขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสารในวันที่ 12 เมษายน 2567 จำนวน 4 ขบวน ในเส้นทางสายเหนือและสายตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ กรุงเทพอภิวัฒน์-เชียงใหม่, กรุงเทพอภิวัฒน์-ศิลาอาสน์, กรุงเทพอภิวัฒน์-อุดรธานี และกรุงเทพอภิวัฒน์-อุบลราชธานี เพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในช่วงวันหยุดต่อเนื่องเทศกาลสงกรานต์ 2567 นี้
กรมการขนส่งทางรางห่วงใยผู้ใช้บริการระบบราง สงกรานต์เดินทางสะดวก ปลอดภัย แบบไร้รอยต่อ
หน่วยงานที่ประกาศ
กลุ่มประชาสัมพันธ์
