27 มี.ค. 68 นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง พร้อมด้วยนายอธิภู จิตรานุเคราะห์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง และเจ้าหน้าที่ ขร. เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการบริหารการพัฒนาโครงการความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 1/2568 เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย – จีน ครั้งที่ 32 ในรูปแบบการประชุมทางไกล ระหว่างวันที่ 1-2 เม.ย. 68 โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงคมนาคมและผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้
ที่ประชุมได้หารือถึงความคืบหน้าของโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 1 โดยมีงานก่อสร้างแล้วเสร็จ 2 สัญญา จากทั้งหมด 14 สัญญา อยู่ระหว่างดำเนินการอีก 10 สัญญา และรอลงนามสัญญาอีก 2 สัญญา โดยคาดว่าจะสามารถลงนามในสัญญาเพื่อเริ่มดำเนินการก่อสร้างงานโยธาได้ทั้งหมด 14 สัญญา
ภายในปี 2568 ปัจจุบันความก้าวหน้าโดยรวมร้อยละ 41.70 รวมถึงการพิจารณาแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียนจากประชาชน โดยที่ประชุมเห็นชอบการปรับกรอบวงเงิน สัญญาโยธา 3 – 5 ช่วงโคกกรวด – นครราชสีมา เพื่อแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียนของประชาชน ในการเปลี่ยนแปลงงานจากรูปแบบการก่อสร้างคันทางระดับดินเป็นรูปแบบทางยกระดับ
นอกจากนี้ ยังได้หารือถึงการเร่งรัดการดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ปัจจุบันได้ออกแบบงานโยธาแล้วเสร็จ และคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ดำเนินโครงการแล้วเมื่อวันที่ 4 ก.พ. 68 ซึ่งที่ประชุมได้เร่งรัดให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ดำเนินการก่อสร้างได้ภายในปี 2568 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย – จีน
อีกประเด็นสำคัญคือการเชื่อมต่อโครงการสู่ สปป.ลาว ที่ประชุมได้หารือในประเด็นการเร่งรัดการเชื่อมโยงทางรถไฟระหว่าง ไทย-ลาว-จีน ผ่านสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ โดยฝ่ายไทยจะหารือกับฝ่ายจีนเพื่อริเริ่มการก่อสร้างทางรถไฟจากสถานีเวียงจันทน์ตอนใต้ รวมถึงสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำโขงไปยังประเทศไทย และการเจรจากับ สปป.ลาว ให้เร่งรัดการก่อสร้างสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่
การประชุมครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมของโครงการรถไฟความเร็วสูงระหว่างสองประเทศ เพื่อยกระดับความร่วมมือให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เสริมสร้างเศรษฐกิจและความมั่นคงในภูมิภาค รวมทั้งเชื่อมโยงการค้าการลงทุนระหว่างกัน ตลอดจนขยายเครือข่ายเชื่อมโยงรถไฟสู่ประเทศเพื่อนบ้านอย่าง สปป.ลาว เพื่อเพิ่มศักยภาพการขนส่งและการเชื่อมโยงในภูมิภาคต่อไป
หน่วยงานที่ประกาศ
กลุ่มประชาสัมพันธ์
