“คมนาคม” ตรวจเข้มรับสงกรานต์ พร้อมลงพื้นที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ย้ำความปลอดภัยต้องมาก่อน

วันที่ 10 เมษายน 2568 นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง พร้อมผู้บริหารกระทรวงคมนาคม และผู้บริหารหน่วยงานในสังกัด ร่วมงาน “สงกรานต์ปลอดภัย ร่วมใจลดอุบัติเหตุทางถนน” โดยมีนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดงาน ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ซึ่งจัดขึ้นโดยมูลนิธิเมาไม่ขับ

ภายหลังเปิดงาน นายสุรพงษ์ได้ตรวจเยี่ยมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 พร้อมสุ่มตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ของพนักงานขับรถไฟและเจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทยที่ปฏิบัติหน้าที่บนขบวนรถ พบว่าไม่มีผู้ใดมีระดับแอลกอฮอล์ในร่างกาย

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า ช่วงเทศกาลที่ผ่านมา แม้หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนจะร่วมกันรณรงค์ป้องกันอุบัติเหตุอย่างเต็มที่ แต่ยังคงมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก โดยในช่วงสงกรานต์ปีก่อน มีผู้เสียชีวิตถึง 287 ราย และบาดเจ็บ 2,060 ราย ซึ่งนับเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของประเทศ

สาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมเสี่ยง เช่น เมาแล้วขับ โทรแล้วขับ ง่วงแล้วขับ ขับรถเร็ว และฝ่าฝืนกฎจราจร กระทรวงคมนาคมจึงกำชับให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมของระบบขนส่งมวลชนและการให้บริการอย่างเพียงพอและปลอดภัย โดยเฉพาะผู้ขับรถโดยสารและผู้ให้บริการต้องมีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่อย่างปลอดภัย

ทั้งนี้ ได้ดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร และรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งได้กำชับให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมดำเนินการด้านความปลอดภัยอย่างเข้มข้นในช่วงวันที่ 11–17 เมษายน 2568 ภายใต้แคมเปญ “เทศกาลความสุข ทุกที่ทั่วไทย เดินทางสะดวก ปลอดภัย บนโครงข่ายคมนาคม”

โดยเฉพาะการเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ ได้มีการยกระดับมาตรการความปลอดภัยอย่างเข้มข้น ทั้งการตรวจความพร้อมของสถานีรถโดยสาร ตัวรถ และการสังเกตสัมภาระที่อาจเป็นวัตถุไวไฟหรือก่อให้เกิดอันตรายระหว่างเดินทาง

ด้านนายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมฯ ได้ประสานผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้าให้เพิ่มความถี่ในการให้บริการช่วงชั่วโมงเร่งด่วน รวมถึงการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพื่อเพิ่มตู้โดยสารในขบวนที่มีผู้ใช้บริการหนาแน่น และเพิ่มขบวนพิเศษใน 5 เส้นทาง รวมจำนวน 26 ขบวน

ในด้านความปลอดภัย กรมฯ ได้เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบสภาพรถและเส้นทางให้พร้อมใช้งานอย่างมั่นคงแข็งแรง พร้อมบูรณาการกับตำรวจและหน่วยงานความมั่นคง ดูแลความปลอดภัย รวมถึงมีการใช้สุนัขตำรวจ K-9 สุ่มตรวจกระเป๋าสัมภาระ

ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางรางขอความร่วมมือผู้โดยสารรถไฟฟ้า สวมหน้ากากอนามัย และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งขอให้เทน้ำลงในภาชนะที่ผู้ให้บริการจัดเตรียมไว้ ก่อนเข้าสู่ระบบรถไฟฟ้า เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้บริการทุกคน

หน่วยงานที่ประกาศ

กลุ่มประชาสัมพันธ์

เรื่องอื่นๆในหมวดหมู่ข่าวประชาสัมพันธ์

Skip to content