วันนี้ (8 ธันวาคม 2566) นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยนางสาวณภัทรา กมลรักษา ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ดร. พิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง นายอธิภู จิตรานุเคราะห์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง และผู้บริหารสังกัดกระทรวงคมนาคม เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
จากการลงพื้นที่ในครั้งนี้ ทางหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จะมีการดำเนินการศึกษารูปแบบระบบขนส่งมวลชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรหนาแน่นในพื้นที่ ซึ่งหนึ่งในแผนการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนในจังหวัดเชียงใหม่ คือ การเดินทางด้วยระบบขนส่งทางราง โดยจะมีการดำเนินโครงการรถไฟฟ้ารางเบาที่เชื่อมโยงโครงข่ายกับระบบขนส่งขนาดรอง (Feeder) ต่าง ๆ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
– สำหรับระบบขนส่งหลัก (Trunk Route, LRT) จะมีโครงสร้างทางวิ่งผสมระหว่างใต้ดินและระดับดิน ประกอบด้วย 3 เส้นทาง ได้แก่
1. สายสีแดง ช่วงโรงพยาบาลนครพิงค์-แยกแม่เหียะสมานสามัคคี
2. สายสีเขียว ช่วงแยกรวมโชคมีชัย-เซ็นทรัลแอร์พอร์ต
3. สายสีน้ำเงิน ช่วงสวนสัตว์เชียงใหม่-แยกศรีบัวเงินพัฒนา
– ระบบขนส่งรอง (Feeder) ได้แก่ รถประจำทาง จำนวน 14 เส้นทาง รวม 174 กิโลเมตร โดยจะนำร่องในโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงโรงพยาบาลนครพิงค์-แยกแม่เหียะสมานสามัคคีเป็นลำดับแรก
ในส่วนของโครงการรถไฟฟ้ารางเบา (Tram) สายสีแดง ช่วงโรงพยาบาลนครพิงค์-แยกแม่เหียะสามัคคี ระยะทาง 15.80 กม. 16 สถานี แบ่งเป็น สถานีใต้ดิน 7 สถานี และสถานีระดับดิน 9 สถานี มีจุดจอดแล้วจร 2 แห่งที่โรงพยาบาลนครพิงค์และแม่เหียะสามัคคี และศูนย์ซ่อมบำรุง 1 แห่งที่หนองฮ่อ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาทบทวนโครงสร้างและระบบที่เหมาะสม โดยคาดว่าจะสามารถเสนอ ครม. เพื่อให้ความเห็นชอบรูปแบบการลงทุน (PPP) ภายในปี 2569 เริ่มก่อสร้างภายในปี 2570 และเปิดให้บริการได้ภายในปี 2574
นอกจากนี้ ในอนาคตจะมีโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพมหานคร-เชียงใหม่ ระยะทางกว่า 670 กิโลเมตร วิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้การเดินทางจากกรุงเทพมหานครถึงเชียงใหม่ใช้เวลาเพียง 3.30 ชั่วโมง
ทั้ง 2 โครงการดังกล่าวข้างต้น จะช่วยลดระยะเวลาการเดินทาง แก้ปัญหาการจราจรติดขัด ลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ลดปัญหามลพิษ เกิดการเชื่อมต่อสถานที่สำคัญ ทั้งท่าอากาศยาน ขนส่ง ศูนย์ราชการ โรงพยาบาล และแหล่งท่องเที่ยว ทำให้การเดินทางในจังหวัดเชียงใหม่มีความสะดวก รวดเร็ว รองรับนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต ส่งเสริมการท่องเที่ยว ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้ดียิ่งขึ้นต่อไป
หน่วยงานที่ประกาศ
กลุ่มประชาสัมพันธ์
