กรมรางเร่งพัฒนาระบบการขนส่งสินค้าทางราง พร้อมเดินหน้าศึกษาการกำหนดอัตราขั้นสูงและหลักเกณฑ์การทบทวนอัตราค่าขนส่งทางราง

กรมการขนส่งทางราง (ขร.) จัดการประชุมโครงการศึกษาการกำหนดอัตราขั้นสูงและหลักเกณฑ์การทบทวนอัตราค่าขนส่งทางราง (Workshop) ครั้งที่ 1 ณ โรงแรมโนโวเทลกรุงเทพ สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต จังหวัดสมุทรปราการ โดยเน้นไปที่การระดมความเห็นจากภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ขนส่งสินค้าและผู้ทรงคุณวุฒิ รวมทั้งได้มีการลงพื้นที่สถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง ลาดกระบัง (ICD Ladkrabang) เพื่อศึกษากระบวนการขนส่งสินค้าทางรถไฟ พร้อมนำข้อมูลที่ได้ไปศึกษาต่อและหาแนวทางแก้ไขและพัฒนาระบบการขนส่งสินค้าทางรางให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นไปในอนาคต

วันนี้ 12 ธันวาคม 2567 กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) ครั้งที่ 1 สำหรับโครงการศึกษาการกำหนดอัตราขั้นสูงและหลักเกณฑ์การทบทวนอัตราค่าขนส่ง ค่าใช้ประโยชน์จากราง ค่าบริการในการประกอบกิจการขนส่งทางราง ณ โรงแรมโนโวเทลกรุงเทพ สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต จังหวัดสมุทรปราการ โดยมีนายอธิภู จิตรานุเคราะห์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง เป็นประธานในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งสาระสำคัญในการประชุมเชิงปฏิบัติการวันนี้ได้จัดให้มีการรับฟังข้อคิดเห็น ระดมความคิดเห็น และหารือร่วมกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ขนส่งสินค้าและผู้ทรงคุณวุฒิ ในประเด็นเกี่ยวกับปัญหาอุปสรรคในการขนส่งสินค้าทางราง โดยเฉพาะในด้านราคาและปัจจัยที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการแก้ไขปัญหาเรื่องอัตราค่าขนส่งสินค้าทางราง ค่ายกขน ค่าบริการที่เกี่ยวเนื่องในปัจจุบัน ความต้องการในการขนส่งสินค้าทางราง ตลอดจนข้อจำกัด ปัญหาและอุปสรรคในการขนส่งสินค้าทางราง โดยข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากการประชุมจะถูกนำไปใช้ในการศึกษาและวิเคราะห์เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาต่างๆ ร่วมกันต่อไป ทั้งนี้เพื่อเป็นการพัฒนาให้ระบบการขนส่งสินค้าทางรางของประเทศมีประสิทธิภาพและยั่งยืนในอนาคตต่อไป

สำหรับโครงการศึกษาการกำหนดอัตราขั้นสูงและหลักเกณฑ์การทบทวนอัตราค่าขนส่งและค่าบริการในการประกอบกิจการขนส่งทางรางนั้น มีวัตถุประสงค์หลัก 4 ประการ ได้แก่ 1) เพื่อศึกษาโครงสร้างต้นทุนและปัจจัยที่เกี่ยวข้องในการกำหนดอัตราขั้นสูงของค่าขนส่ง ค่าใช้ประโยชน์จากราง และค่าบริการในการขนส่งทางราง ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต 2) เพื่อจัดทำหลักเกณฑ์และวิธีการกำหนดอัตราขั้นสูงในด้านต่าง ๆ 3) เพื่อจัดทำข้อเสนอและมาตรการกำกับอัตราค่าขนส่งเพื่อส่งเสริมการขนส่งสินค้าทางราง และ 4) เพื่อจัดทำร่างข้อกำหนด กฎระเบียบ หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดอัตราขั้นสูง รวมทั้งการส่งเสริมการขนส่งสินค้าทางราง เพื่อก่อให้เกิดการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพระบบการขนส่งทางรางในอนาคต ซึ่งเป็นการดำเนินการที่สำคัญตามยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของไทยระยะ 20 ปี ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมการขนส่งสินค้าผ่านระบบราง ด้วยต้นทุนที่ต่ำและมีความปลอดภัยสูง

พร้อมกันนี้ ทาง ขร. ได้ลงพื้นที่ สถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง ลาดกระบัง (ICD Ladkrabang) ซึ่งถือเป็นสถานีรถไฟชั้นพิเศษของการรถไฟแห่งประเทศไทยที่สร้างขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวก ให้บริการแก่ผู้ส่งออก ผู้นำเข้า และบุคคลทั่วไป ในกิจกรรมทุกอย่างเกี่ยวกับสินค้าประเภทตู้คอนเทนเนอร์ ทั้งขาเข้า และขาออก โดยการลงพื้นที่ในวันนี้ เพื่อศึกษากระบวนการขนส่งสินค้าทางรถไฟที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยปัจจุบัน บริเวณ ICD ลาดกระบัง มีเอกชนดำเนินงานบริหารสถานีขนส่งสินค้าอยู่ 4 ราย ได้แก่ บริษัท สยามชอร์ไซด์ เซอร์วิส จำกัด บริษัท อีสเทิร์น ซี แหลมฉบัง เทอร์มินัล จำกัด บริษัท เอเวอร์กรีน คอนเทนเนอร์ เทอร์มินัล (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เอ็น.วาย.เค.ดิสทริบิวชั่น เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด โดยมีขบวนรถไฟขนส่งสินค้า เส้นทาง ICD ลาดกระบัง-ท่าเรือแหลมฉบัง (ไป-กลับ) มากที่สุดถึง 30 ขบวนต่อวัน ซึ่งเส้นทางนี้เป็นรถไฟทางคู่ ระยะทาง 118 กิโลเมตร ใช้เวลาขนส่งสินค้าประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที โดยสามารถพ่วงแคร่รถไฟไปได้สูงสุดถึง 35 แคร่ต่อขบวน โดยในปีงบประมาณ 2567 มีสินค้าบนเส้นทางนี้กว่า 7.44 ล้านตัน ทั้งหมดเป็นสินค้าประเภทบรรจุตู้คอนเทนเนอร์ที่ทำรายได้ค่าระวางให้แก่ รฟท. ได้มากถึง 470 ล้านบาท หรือคิดเป็น 29% ของรายได้จากค่าขนส่งสินค้าทางรถไฟทั้งหมด

หน่วยงานที่ประกาศ

กลุ่มประชาสัมพันธ์

เรื่องอื่นๆในหมวดหมู่ข่าวประชาสัมพันธ์

Skip to content